สศอ. ปลื้ม ขับเคลื่อนอุตฯ ฮาลาลไทยในปี พ.ศ. 2567 สร้างมูลค่าการค้า 335 ล้านบาท เสริมแกร่งไทย พร้อมขึ้นแท่น “ศูนย์กลางฮาลาลของอาเซียน” (ASEAN Halal Hub)
วันนี้ (24 กันยายน 2567) นางศิริเพ็ญ เกียรติเฟื่องฟู รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการแถลงข่าวผลสำเร็จของการดำเนินโครงการภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2567 - 2570) ในปี พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุม 601 ชั้น 6 อาคาร สศอ. โดยมีนายพฤกษ์ ศิโรรัตนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการกองนโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา 2 เจ้าหน้าที่ สศอ. และผู้แทนจากสถาบันเครือข่ายของ อก. เข้าร่วมงานด้วย
สำหรับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลไทยภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2567 - 2570) ในปี พ.ศ. 2567 ประกอบด้วย
(1) กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย (Kick Off) ในงาน Halal Inspirium เกิดการจับคู่ธุรกิจ 139 คู่เจรจา รวมมูลค่าการค้าทั้งสิ้น 88.7 ล้านบาท
(2) กิจกรรมการขยายตลาดสินค้าและบริการฮาลาลไทยภายในประเทศ โดยเข้าร่วมงาน THAIFEX-Anuga Asia 2024 มีมูลค่าการซื้อขายเกิดขึ้น รวมทั้งสิ้น 47.62 ล้านบาท
(3) กิจกรรมการเจรจาภายใต้กรอบความร่วมมือในการขยายตลาดสินค้าและบริการฮาลาลไทย ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-บรูไน ณ ประเทศบรูไน มียอดสั่งซื้อสินค้าแล้ว 3.2 ล้านบาท ประมาณการว่าจะมีมูลค่าการค้าภายในปีนี้ทั้งสิ้นราว 16.9 ล้านบาท
(4) กิจกรรมการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (The IMT-GT Ministerial Meeting) ณ ประเทศมาเลเซีย
นอกจากนี้ สศอ. ยังได้จัดทำโครงการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลแห่งอนาคต (Halal Food of the Future) ขับเคลื่อน Soft Power ไทยสู่สากล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับตัวของธุรกิจแปรรูปอาหารฮาลาลไปสู่การยกระดับมาตรฐานการผลิตในระดับสากล มุ่งเน้นการจัดทำต้นแบบแนวทางการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความพร้อมในการขอรับรองมาตรฐานฮาลาลตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยใช้จุดแข็งของอัตลักษณ์อาหารไทย (Soft Power) ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน จนสามารถผลิตสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค และเป็นไปตามหลักการศาสนาอิสลาม เพื่อส่งออกสู่ตลาดสากล และผลักดันให้ประเทศไทยสามารถเป็น 1 ใน 10 ของประเทศผู้ส่งออกอาหารของโลกได้ภายในปี พ.ศ. 2570 ทั้งนี้ ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วเช่นเดียวกัน ประกอบด้วย 5 กิจกรรม ดังนี้
(1) สำรวจและประเมินศักยภาพตลาดอาหารฮาลาลในต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย และซาอุดีอาระเบีย เพื่อให้ทราบศักยภาพตลาดอาหารฮาลาลในภูมิภาคต่าง ๆ รองรับการส่งออกอาหารฮาลาลของไทย
(2) ยกระดับมาตรฐานฮาลาลเพื่อการส่งออก โดยการให้คำปรึกษาเชิงลึกตลอดห่วงโซ่อุปทานแก่สถานประกอบการไทยทั้งหมด 32 สถานประกอบการ
(3) จัดทำ Role Model แนวทางการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความพร้อมในการขอรับรองมาตรฐานฮาลาลตลอดห่วงโซ่อุปทาน แบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คือ 1) คู่มือสำหรับอาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน 2) คู่มือเครื่องปรุงและซอสปรุงรส และ 3) คู่มือโรงเชือดสัตว์และชำแหละเนื้อสัตว์
(4) พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลแปรรูปต้นแบบ รูปแบบ Future Food ทั้งหมด 10 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เส้นโปรตีนไข่ผำซอสแกงคั่วเห็ดแครง เครื่องดื่มรังนกแพลนต์เบสผสมสมุนไพร กาแฟเมล็ดอินทผลัมผสมคาเคานิบส์ ชีสแพลนต์เบส สูตรคีโต แกงเลียงซุปเปอร์ฟู้ด ซอสไก่กอและผง สูตรลังกาสุกะ แกงมัสมั่นเนื้อโคขุน สูตรปักษ์ใต้ แครกเกอร์สาหร่ายผมนาง ซุปโปรตีนเข้มข้นจากปลากะพงสามน้ำ และขนมบดินสูตร Low-GI
(5) การเชื่อมโยงตลาดทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 2 ครั้ง คือ งาน WORLD HAPEX THAILAND 2024 จังหวัดสงขลา เกิดมูลค่าการสั่งซื้อภายในงาน 5 ล้านบาท การจับคู่เจรจาธุรกิจ 40 คู่ สำหรับในต่างประเทศ ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Malaysia International Halal Showcase (MIHAS) 2024 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีมูลค่าการค้าราว 191 ล้านบาท
สำหรับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลไทยภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2567 - 2570) ในปี พ.ศ. 2567 ประกอบด้วย
(1) กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย (Kick Off) ในงาน Halal Inspirium เกิดการจับคู่ธุรกิจ 139 คู่เจรจา รวมมูลค่าการค้าทั้งสิ้น 88.7 ล้านบาท
(2) กิจกรรมการขยายตลาดสินค้าและบริการฮาลาลไทยภายในประเทศ โดยเข้าร่วมงาน THAIFEX-Anuga Asia 2024 มีมูลค่าการซื้อขายเกิดขึ้น รวมทั้งสิ้น 47.62 ล้านบาท
(3) กิจกรรมการเจรจาภายใต้กรอบความร่วมมือในการขยายตลาดสินค้าและบริการฮาลาลไทย ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-บรูไน ณ ประเทศบรูไน มียอดสั่งซื้อสินค้าแล้ว 3.2 ล้านบาท ประมาณการว่าจะมีมูลค่าการค้าภายในปีนี้ทั้งสิ้นราว 16.9 ล้านบาท
(4) กิจกรรมการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (The IMT-GT Ministerial Meeting) ณ ประเทศมาเลเซีย
นอกจากนี้ สศอ. ยังได้จัดทำโครงการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลแห่งอนาคต (Halal Food of the Future) ขับเคลื่อน Soft Power ไทยสู่สากล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับตัวของธุรกิจแปรรูปอาหารฮาลาลไปสู่การยกระดับมาตรฐานการผลิตในระดับสากล มุ่งเน้นการจัดทำต้นแบบแนวทางการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความพร้อมในการขอรับรองมาตรฐานฮาลาลตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยใช้จุดแข็งของอัตลักษณ์อาหารไทย (Soft Power) ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน จนสามารถผลิตสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค และเป็นไปตามหลักการศาสนาอิสลาม เพื่อส่งออกสู่ตลาดสากล และผลักดันให้ประเทศไทยสามารถเป็น 1 ใน 10 ของประเทศผู้ส่งออกอาหารของโลกได้ภายในปี พ.ศ. 2570 ทั้งนี้ ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วเช่นเดียวกัน ประกอบด้วย 5 กิจกรรม ดังนี้
(1) สำรวจและประเมินศักยภาพตลาดอาหารฮาลาลในต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย และซาอุดีอาระเบีย เพื่อให้ทราบศักยภาพตลาดอาหารฮาลาลในภูมิภาคต่าง ๆ รองรับการส่งออกอาหารฮาลาลของไทย
(2) ยกระดับมาตรฐานฮาลาลเพื่อการส่งออก โดยการให้คำปรึกษาเชิงลึกตลอดห่วงโซ่อุปทานแก่สถานประกอบการไทยทั้งหมด 32 สถานประกอบการ
(3) จัดทำ Role Model แนวทางการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความพร้อมในการขอรับรองมาตรฐานฮาลาลตลอดห่วงโซ่อุปทาน แบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คือ 1) คู่มือสำหรับอาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน 2) คู่มือเครื่องปรุงและซอสปรุงรส และ 3) คู่มือโรงเชือดสัตว์และชำแหละเนื้อสัตว์
(4) พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลแปรรูปต้นแบบ รูปแบบ Future Food ทั้งหมด 10 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เส้นโปรตีนไข่ผำซอสแกงคั่วเห็ดแครง เครื่องดื่มรังนกแพลนต์เบสผสมสมุนไพร กาแฟเมล็ดอินทผลัมผสมคาเคานิบส์ ชีสแพลนต์เบส สูตรคีโต แกงเลียงซุปเปอร์ฟู้ด ซอสไก่กอและผง สูตรลังกาสุกะ แกงมัสมั่นเนื้อโคขุน สูตรปักษ์ใต้ แครกเกอร์สาหร่ายผมนาง ซุปโปรตีนเข้มข้นจากปลากะพงสามน้ำ และขนมบดินสูตร Low-GI
(5) การเชื่อมโยงตลาดทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 2 ครั้ง คือ งาน WORLD HAPEX THAILAND 2024 จังหวัดสงขลา เกิดมูลค่าการสั่งซื้อภายในงาน 5 ล้านบาท การจับคู่เจรจาธุรกิจ 40 คู่ สำหรับในต่างประเทศ ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Malaysia International Halal Showcase (MIHAS) 2024 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีมูลค่าการค้าราว 191 ล้านบาท