กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมมือ METI ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม ไทย-ญี่ปุ่น
วันที่ 29 เมษายน 2568 กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (Ministry of Economy Trade and Industry: METI) จัดการประชุมกลไกการหารือไทย-ญี่ปุ่นว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม (Energy and Industry Dialogue: EID) ครั้งที่ 1 ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเต็ล ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ
การประชุม EID ครั้งที่ 1 มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายมุโต โยจิ (Moto Yoji) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) เป็นประธานร่วม พร้อมด้วยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมขับเคลื่อนประเด็นสารัตถะ โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ในฐานะเลขานุการร่วมฝ่ายไทย รวมทั้ง ผู้บริหารหน่วยงานระดับกรมของกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุม
ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานแห่งอนาคต และสังคมคาร์บอนต่ำ ได้แก่ 1) การส่งเสริมแนวทางที่หลากหลาย (Promotion of Multi-Pathway) เพื่อตระหนักว่าไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยานยนต์แห่งอนาคตการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันสาขาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของไทยโดยการลดปริมาณคาร์บอนในกระบวนการผลิตในห่วงโซ่อุปทานของยานยนต์ประเภทต่าง ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้ง การส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงที่ลดคาร์บอน 2)การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Promotion of Circular Economy) เพื่อการส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศสำหรับการกำจัดเศษและรีไซเคิลรถยนต์เก่าได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งการจัดสร้างระบบรีไซเคิลยานยนต์ การจัดตั้งกรอบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจการแยกชิ้นส่วนและรีไซเคิลภายใต้ความร่วมมือของทั้งสองประเทศการตระหนักรู้การใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน และ 3)การดูแลรักษาและพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและทรัพยากรบุคคลให้สามารถแข่งขันได้ รวมถึงการสนับสนุน SMEs โดยเน้นย้ำความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยซึ่งได้ดำเนินการผ่านความร่วมมือที่หลากหลายระหว่างผู้ประกอบการเอกชนทั้งในญี่ปุ่นและไทย รวมทั้งการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการถ่ายทอดเทคโนโลยี การส่งเสริมการแนะนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาใช้อย่างต่อเนื่อง และทำงานร่วมกันในรูปแบบหุ้นส่วนภาครัฐ-เอกชนเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้การรับรองถ้อยแถลงร่วมกลไกการหารือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม (Joint Statement of the Energy and Industry Dialogue) ตามที่คณะรัฐมนตรีของไทยให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568
นอกจากนี้ รัฐมนตรีของไทยและญี่ปุ่น ได้ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรม 1) การเป็นสักขีพยาน พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างหน่วยงานภาคธุรกิจและสถาบันวิชาการของไทยและญี่ปุ่นเพื่อร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรมร่วมกับกลไกการหารือใน 3 ประเด็นหลักดังกล่าว และ 2) กล่าวเปิดการการเสวนาโต๊ะกลม หัวข้อ “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สําหรับอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต” โดยมีผู้แทน ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาควิชาการของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมอภิปรายในประเด็น ยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์รุ่น และ ความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา เพื่อกระชับความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมให้เกียรติร่วมกล่าวปิดงานและขอบคุณผู้เข้าร่วมงานด้วย
การประชุม EID ครั้งที่ 1 มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายมุโต โยจิ (Moto Yoji) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) เป็นประธานร่วม พร้อมด้วยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมขับเคลื่อนประเด็นสารัตถะ โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ในฐานะเลขานุการร่วมฝ่ายไทย รวมทั้ง ผู้บริหารหน่วยงานระดับกรมของกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุม
ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานแห่งอนาคต และสังคมคาร์บอนต่ำ ได้แก่ 1) การส่งเสริมแนวทางที่หลากหลาย (Promotion of Multi-Pathway) เพื่อตระหนักว่าไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยานยนต์แห่งอนาคตการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันสาขาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของไทยโดยการลดปริมาณคาร์บอนในกระบวนการผลิตในห่วงโซ่อุปทานของยานยนต์ประเภทต่าง ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้ง การส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงที่ลดคาร์บอน 2)การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Promotion of Circular Economy) เพื่อการส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศสำหรับการกำจัดเศษและรีไซเคิลรถยนต์เก่าได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งการจัดสร้างระบบรีไซเคิลยานยนต์ การจัดตั้งกรอบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจการแยกชิ้นส่วนและรีไซเคิลภายใต้ความร่วมมือของทั้งสองประเทศการตระหนักรู้การใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน และ 3)การดูแลรักษาและพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและทรัพยากรบุคคลให้สามารถแข่งขันได้ รวมถึงการสนับสนุน SMEs โดยเน้นย้ำความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยซึ่งได้ดำเนินการผ่านความร่วมมือที่หลากหลายระหว่างผู้ประกอบการเอกชนทั้งในญี่ปุ่นและไทย รวมทั้งการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการถ่ายทอดเทคโนโลยี การส่งเสริมการแนะนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาใช้อย่างต่อเนื่อง และทำงานร่วมกันในรูปแบบหุ้นส่วนภาครัฐ-เอกชนเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้การรับรองถ้อยแถลงร่วมกลไกการหารือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม (Joint Statement of the Energy and Industry Dialogue) ตามที่คณะรัฐมนตรีของไทยให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568
นอกจากนี้ รัฐมนตรีของไทยและญี่ปุ่น ได้ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรม 1) การเป็นสักขีพยาน พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างหน่วยงานภาคธุรกิจและสถาบันวิชาการของไทยและญี่ปุ่นเพื่อร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรมร่วมกับกลไกการหารือใน 3 ประเด็นหลักดังกล่าว และ 2) กล่าวเปิดการการเสวนาโต๊ะกลม หัวข้อ “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สําหรับอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต” โดยมีผู้แทน ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาควิชาการของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมอภิปรายในประเด็น ยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์รุ่น และ ความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา เพื่อกระชับความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมให้เกียรติร่วมกล่าวปิดงานและขอบคุณผู้เข้าร่วมงานด้วย