กระทรวงอุตสาหกรรมให้การต้อนรับสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสมาคมการค้าผู้ผลิตหลังคาเหล็กไทย เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาคุณภาพสินค้าหลังคาเมทัลชีท
วันนี้ (29 เมษายน 2567) นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสมาคมการค้าผู้ผลิตหลังคาเหล็กไทย นำโดย นายสุปรีย์ ทองเพชร ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย และนายพันธนวุฒิ ถิ่นคำแบ่ง นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตหลังคาเหล็กไทย โดยมี นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นายกฤศ จันทร์สุวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สศอ. และ สมอ. เข้าร่วมด้วย ณ ห้องประชุมชุณหะวัณ ชั้น 3 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อหารือแนวทางในการแก้ปัญหาหลังคาเมทัลชีทไม่ได้คุณภาพ เนื่องจากมีการนำเข้าเหล็กเคลือบสังกะสี อะลูมิเนียม และเหล็กเคลือบอะลูมิเนียม สังกะสี และเคลือบสี คุณภาพต่ำเข้ามาจำหน่ายภายในประเทศโดยปราศจากการควบคุมและมาตรฐานในการตรวจสอบ รวมถึงมีการแสดงรายละเอียดชั้นเคลือบสินค้าไม่ตรงตามความเป็นจริง เพื่อนำมาผลิตเป็นหลังคาเมทัลชีท ส่งผลให้หลังคาเมทัลชีทดังกล่าวเกิดสนิมเร็วกว่าปกติ ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน รวมถึงก่อให้เกิดความเสียหายทางการค้าและเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง
โดยผู้แทนสมาคมการค้าผู้ผลิตหลังคาเหล็กนำเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาคุณภาพหลังคาเมทัลชีท โดยการให้ สมอ. การเร่งดำเนินการประกาศบังคับใช้ มอก. 2228-2565 (เหล็กกล้าทรงแบนเคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน) มอก. 2131-2559 (เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อนและเคลือบสี) และ มอก. 2753-2559 (เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็น เคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน และเคลือบสี) เป็น มอก. ภาคบังคับ เพื่อให้หลังคาเมทัลชีท ผลิตจากเหล็กที่ตรงตามมาตรฐานบังคับ ซึ่งจะส่งผลให้หลังคาเมทัลชีท มีคุณภาพ คงทนต่อการใช้งาน ซึ่ง สมอ. รับว่าจะดำเนินการให้มีการบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าวข้างต้นโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ทั้งนี้ คาดว่า มอก. 2228-2565 จะได้รับการเสนอเข้าสู่วาระการประชุม ครม. ภายในต้นเดือนพฤษภาคม 2567 และ สมอ. จะติดตาม มอก. 2131-2559 และ มอก. 2753-2559 ให้สามารถมีผลบังคับใช้ต่อไปโดยเร็ว
โดยผู้แทนสมาคมการค้าผู้ผลิตหลังคาเหล็กนำเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาคุณภาพหลังคาเมทัลชีท โดยการให้ สมอ. การเร่งดำเนินการประกาศบังคับใช้ มอก. 2228-2565 (เหล็กกล้าทรงแบนเคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน) มอก. 2131-2559 (เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อนและเคลือบสี) และ มอก. 2753-2559 (เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็น เคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน และเคลือบสี) เป็น มอก. ภาคบังคับ เพื่อให้หลังคาเมทัลชีท ผลิตจากเหล็กที่ตรงตามมาตรฐานบังคับ ซึ่งจะส่งผลให้หลังคาเมทัลชีท มีคุณภาพ คงทนต่อการใช้งาน ซึ่ง สมอ. รับว่าจะดำเนินการให้มีการบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าวข้างต้นโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ทั้งนี้ คาดว่า มอก. 2228-2565 จะได้รับการเสนอเข้าสู่วาระการประชุม ครม. ภายในต้นเดือนพฤษภาคม 2567 และ สมอ. จะติดตาม มอก. 2131-2559 และ มอก. 2753-2559 ให้สามารถมีผลบังคับใช้ต่อไปโดยเร็ว