สศอ. หารือแนวทางการแก้ไขวิกฤตอุตสาหกรรมเหล็กไทย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2567 นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมพิจารณาแนวทางการแก้ไขวิกฤตอุตสาหกรรมเหล็กไทย พร้อมด้วยนายกฤศ จันทรสุวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นางสาวพธู ทองจุล ผอ.กร.1 และเจ้าหน้าที่ กร.1 ผู้แทน กรอ. สมอ. และผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมฯ เพื่อร่วมพิจารณาแนวทางการแก้ไขวิกฤตอุตสาหกรรมเหล็กไทย 2 เรื่องหลักคือ การแก้ไขปัญหา Overcacity และการใช้มาตรฐานอุตสาหกรรมในการควบคุมคุณภาพส่วนประกอบของสินค้าโครงสร้างสำเร็จรูป (Prefab)
โดยปัจจุบัน อุตสาหกรรมเหล็กประสบปัญหาการใช้อัตรากำลังการผลิตต่ำต่อเนื่องและยาวนาน โดยในปี 2566 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 31.2 ลดลงจากร้อยละ 33.4 ในปี 2565 และใน 6 เดือนแรกของปี 2567 อัตราการใช้กำลังการผลิตเหลืออยู่ที่ร้อยละ 30.0 โดยเหล็กแผ่นรีดร้อนมีอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำที่สุด นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเหล็กยังประสบปัญหาการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มที่ผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่าง ๆ ที่นำเข้ามาเป็นโครงสร้างสำเร็จรูป (Prefab) จะไม่ผ่านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานเหล็ก ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากการใช้อัตรากำลังการผลิตต่ำ และสินค้าเหล็กนำเข้าที่ไม่มีมาตรฐาน อก. โดย สศอ. กรอ. สมอ. ร่วมกับสถาบันเหล็กฯ จึงร่วมกันหารือแนวทางแก้ไข
ซึ่งที่ประชุมได้เห็นควรที่จะเสนอให้มีการต่ออายุมาตรการห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต และมีการบังคับมาตรการฯ กับโรงงานผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน รวมถึงเร่งสรุปการจัดทำมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสินค้าเหล็กโครงสร้างสำเร็จรูป (Prefab) เพื่อให้สินค้าเหล็กโครงสร้างสำเร็จรูปเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อประโยชน์ในการใช้งาน และความปลอดภัยของผู้ใช้ในประเทศต่อไป
โดยปัจจุบัน อุตสาหกรรมเหล็กประสบปัญหาการใช้อัตรากำลังการผลิตต่ำต่อเนื่องและยาวนาน โดยในปี 2566 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 31.2 ลดลงจากร้อยละ 33.4 ในปี 2565 และใน 6 เดือนแรกของปี 2567 อัตราการใช้กำลังการผลิตเหลืออยู่ที่ร้อยละ 30.0 โดยเหล็กแผ่นรีดร้อนมีอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำที่สุด นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเหล็กยังประสบปัญหาการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มที่ผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่าง ๆ ที่นำเข้ามาเป็นโครงสร้างสำเร็จรูป (Prefab) จะไม่ผ่านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานเหล็ก ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากการใช้อัตรากำลังการผลิตต่ำ และสินค้าเหล็กนำเข้าที่ไม่มีมาตรฐาน อก. โดย สศอ. กรอ. สมอ. ร่วมกับสถาบันเหล็กฯ จึงร่วมกันหารือแนวทางแก้ไข
ซึ่งที่ประชุมได้เห็นควรที่จะเสนอให้มีการต่ออายุมาตรการห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต และมีการบังคับมาตรการฯ กับโรงงานผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน รวมถึงเร่งสรุปการจัดทำมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสินค้าเหล็กโครงสร้างสำเร็จรูป (Prefab) เพื่อให้สินค้าเหล็กโครงสร้างสำเร็จรูปเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อประโยชน์ในการใช้งาน และความปลอดภัยของผู้ใช้ในประเทศต่อไป