กระทรวงอุตสาหกรรมให้การต้อนรับ ผวจ. ไอจิ ญี่ปุ่น กระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมสานต่อการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน เพื่อการสร้างเศรษฐกิจส่งต่อโลกที่มีความก้าวหน้า
วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (รวอ.)ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายชาลี ขันศิริ ผู้อำนวยการกองเศรษฐกิจอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ และนายอนุวัตร จุลินทร ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับ นายโอมูระ ฮิเดอากิ (Mr. OHMURA Hideaki) ผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ นายโอตากะ มาซาโตะ (H.E. Mr. OTAKA Masato) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และคณะ ในโอกาสการเข้าเยี่ยมคารวะ ณ ห้องประชุมชุณหะวัณ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในประเด็น ๑) การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดไอจิ ๒) การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ อาทิ การสนับสนุนกิจกรรมของสำนักงานจังหวัดไอจิที่ตั้งอยู่ที่องค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ (JETRO Bangkok) การจับคู่ทางธุรกิจระหว่างบริษัทไทยและญี่ปุ่น การสนับสนุนให้แก่ภาคธุรกิจจากจังหวัดไอจิมาเปิดกิจการในไทย การเชิญชวนบริษัทไทยให้เป็นสมาชิกของศูนย์สนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ STATION Ai และการเชิญชวนเข้าร่วมงาน AXIA Expo ที่จังหวัดไอจิในปี ๒๕๖๘ ตลอดจน ๓) การขอเสียงสนับสนุนจากไทยให้จังหวัดไอจิเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน 2028 World Skills Competition
ในการนี้ รวอ. ได้แสดงกล่าวต้อนรับและชื่นชมว่าจังหวัดไอจิเป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นพื้นที่หลักทั้งด้านการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและมีผลผลิตทางด้านเกษตรกรรมเป็นอันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลไม้ส่งออก ดอกไม้ส่งออก ไม้แปรรูป นอกจากนั้น จังหวัดไอจิยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอนาคตรวมถึงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เครื่องบิน ยานอวกาศ รวมทั้งเป็นสถานที่ตั้งขององค์การ JAXA (Japan Aerospace Exploration Agency หรือองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น) ซึ่งเทียบเท่ากับองค์การนาซ่าและองค์การ JAXA ยังสร้างจรวด ดาวเทียม โมดูลหรือชิ้นส่วนของสถานีอวกาศนานาชาติที่จังหวัดไอจิด้วย นอกจากนี้ ยังมีบริษัทชั้นนำระดับโลกต่าง ๆ ตั้งอยู่ที่จังหวัดไอจิ อาทิ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ผู้ผลิตยานยนต์และเครื่องจักรกล) ทั้งนี้ รวอ. ได้กล่าวถึงบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับจังหวัดไอจิ ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งมีการดำเนินความร่วมมืออย่างดีมาโดยตลอด จึงขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ ท่านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และผู้ประกอบการญี่ปุ่น และขอให้ทั้งสองฝ่ายเป็นหุ้นส่วนที่ดีกันตลอดไป
ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรมเช่นกัน โดยในการเดินทางมา ในครั้งนี้ ได้เชิญท่านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ผู้ประกอบการญี่ปุ่น และผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ประจำภูมิภาคชูบุและสำนักงานเมืองนาโกย่า ร่วมคณะมาด้วย เพื่อหารือเรื่องการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางด้านเศรษฐกิจและสังคมระหว่างเมืองพี่เมืองน้อง ซึ่งได้มีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างจังหวัดไอจิกับกรุงเทพตั้งแต่ปี 2555 โดยในส่วนของ MOU ที่มีการลงนามกับกระทรวงอุตสาหกรรม จังหวัดไอจิได้มีการชักชวนผู้ประกอบการรายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้แก่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และผู้ประกอบการรายย่อยของญี่ปุ่น มาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติมด้วย โดยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ทางโตโยต้า ได้แจ้งว่า ได้มีการลงทุนเปิดโรงงานการผลิตสินค้า 40 แห่งใน 80 ประเทศทั่วโลก โดยการดำเนินการผลิตสินค้าในประเทศไทย ผู้ประกอบการได้มีการใช้เทคโนโลยีเกือบเทียบเท่ากับที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่นและสูงกว่าที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา
ผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ แจ้งด้วยว่าในเดือนตุลาคม 2567 จังหวัดไอจิจะเปิดให้บริการ Station Ai ณ เมืองนาโกย่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้าง Station Ai ให้เป็นระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ที่จะช่วยสนับสนุนให้จังหวัดไอจิได้กลายเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมระดับโลก โดยอาศัยการรวมเครือข่ายของสตาร์ทอัพทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ จังหวัดไอจิยังได้มีนโยบายสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในจังหวัดไอจิเข้าไปลงทุนในต่างประเทศและได้มีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลการลงทุนที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายน 2559 เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs สนใจเข้ามาลงทุนในไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ จังหวัดไอจิจะมีการจัดนิทรรศการ AXIA Expo 2025 & SMS 2025 ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2568 ณ Achi International Exhibition Hall (Achi Sky Expo) ซึ่งในงานนิทรรศการอุตสาหกรรมนานาชาติดังกล่าวจะมีการจัดโซน ASIA Pavilion โดยเฉพาะ (หากหน่วยงานใดประสงค์จะออกบูธภายในงาน จะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจำนวนครึ่งหนึ่ง) และคาดหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ของไทยเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ รวอ. กล่าวตอบว่า กระทรวงอุตสาหกรรมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO Bangkok) และหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) มีความสัมพันธ์อย่างดีและได้รับทราบข้อมูลและนโยบายระหว่างกันมาโดยตลอด ดังนั้นการที่จังหวัดไอจิมีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลการลงทุนที่กรุงเทพฯ นับว่าเป็นประโยชน์สำหรับ ผู้ประกอบการและนักลงทุนของไทยและญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง และขอบคุณที่จังหวัดไอจิเลือกมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเป็นการสร้างคน สร้างงาน และสร้างโอกาสและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมยินดีให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการญี่ปุ่นทุกรายและหวังว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างยาวนาน จะส่งถึงผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยและผู้ประกอบการไทยในญี่ปุ่นเช่นกันอันจะนำไปสู่เศรษฐกิจที่ดีให้กับรุ่นต่อไป
ทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในประเด็น ๑) การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดไอจิ ๒) การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ อาทิ การสนับสนุนกิจกรรมของสำนักงานจังหวัดไอจิที่ตั้งอยู่ที่องค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ (JETRO Bangkok) การจับคู่ทางธุรกิจระหว่างบริษัทไทยและญี่ปุ่น การสนับสนุนให้แก่ภาคธุรกิจจากจังหวัดไอจิมาเปิดกิจการในไทย การเชิญชวนบริษัทไทยให้เป็นสมาชิกของศูนย์สนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ STATION Ai และการเชิญชวนเข้าร่วมงาน AXIA Expo ที่จังหวัดไอจิในปี ๒๕๖๘ ตลอดจน ๓) การขอเสียงสนับสนุนจากไทยให้จังหวัดไอจิเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน 2028 World Skills Competition
ในการนี้ รวอ. ได้แสดงกล่าวต้อนรับและชื่นชมว่าจังหวัดไอจิเป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นพื้นที่หลักทั้งด้านการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและมีผลผลิตทางด้านเกษตรกรรมเป็นอันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลไม้ส่งออก ดอกไม้ส่งออก ไม้แปรรูป นอกจากนั้น จังหวัดไอจิยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอนาคตรวมถึงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เครื่องบิน ยานอวกาศ รวมทั้งเป็นสถานที่ตั้งขององค์การ JAXA (Japan Aerospace Exploration Agency หรือองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น) ซึ่งเทียบเท่ากับองค์การนาซ่าและองค์การ JAXA ยังสร้างจรวด ดาวเทียม โมดูลหรือชิ้นส่วนของสถานีอวกาศนานาชาติที่จังหวัดไอจิด้วย นอกจากนี้ ยังมีบริษัทชั้นนำระดับโลกต่าง ๆ ตั้งอยู่ที่จังหวัดไอจิ อาทิ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ผู้ผลิตยานยนต์และเครื่องจักรกล) ทั้งนี้ รวอ. ได้กล่าวถึงบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับจังหวัดไอจิ ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งมีการดำเนินความร่วมมืออย่างดีมาโดยตลอด จึงขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ ท่านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และผู้ประกอบการญี่ปุ่น และขอให้ทั้งสองฝ่ายเป็นหุ้นส่วนที่ดีกันตลอดไป
ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรมเช่นกัน โดยในการเดินทางมา ในครั้งนี้ ได้เชิญท่านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ผู้ประกอบการญี่ปุ่น และผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ประจำภูมิภาคชูบุและสำนักงานเมืองนาโกย่า ร่วมคณะมาด้วย เพื่อหารือเรื่องการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางด้านเศรษฐกิจและสังคมระหว่างเมืองพี่เมืองน้อง ซึ่งได้มีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างจังหวัดไอจิกับกรุงเทพตั้งแต่ปี 2555 โดยในส่วนของ MOU ที่มีการลงนามกับกระทรวงอุตสาหกรรม จังหวัดไอจิได้มีการชักชวนผู้ประกอบการรายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้แก่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และผู้ประกอบการรายย่อยของญี่ปุ่น มาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติมด้วย โดยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ทางโตโยต้า ได้แจ้งว่า ได้มีการลงทุนเปิดโรงงานการผลิตสินค้า 40 แห่งใน 80 ประเทศทั่วโลก โดยการดำเนินการผลิตสินค้าในประเทศไทย ผู้ประกอบการได้มีการใช้เทคโนโลยีเกือบเทียบเท่ากับที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่นและสูงกว่าที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา
ผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ แจ้งด้วยว่าในเดือนตุลาคม 2567 จังหวัดไอจิจะเปิดให้บริการ Station Ai ณ เมืองนาโกย่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้าง Station Ai ให้เป็นระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ที่จะช่วยสนับสนุนให้จังหวัดไอจิได้กลายเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมระดับโลก โดยอาศัยการรวมเครือข่ายของสตาร์ทอัพทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ จังหวัดไอจิยังได้มีนโยบายสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในจังหวัดไอจิเข้าไปลงทุนในต่างประเทศและได้มีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลการลงทุนที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายน 2559 เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs สนใจเข้ามาลงทุนในไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ จังหวัดไอจิจะมีการจัดนิทรรศการ AXIA Expo 2025 & SMS 2025 ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2568 ณ Achi International Exhibition Hall (Achi Sky Expo) ซึ่งในงานนิทรรศการอุตสาหกรรมนานาชาติดังกล่าวจะมีการจัดโซน ASIA Pavilion โดยเฉพาะ (หากหน่วยงานใดประสงค์จะออกบูธภายในงาน จะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจำนวนครึ่งหนึ่ง) และคาดหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ของไทยเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ รวอ. กล่าวตอบว่า กระทรวงอุตสาหกรรมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO Bangkok) และหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) มีความสัมพันธ์อย่างดีและได้รับทราบข้อมูลและนโยบายระหว่างกันมาโดยตลอด ดังนั้นการที่จังหวัดไอจิมีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลการลงทุนที่กรุงเทพฯ นับว่าเป็นประโยชน์สำหรับ ผู้ประกอบการและนักลงทุนของไทยและญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง และขอบคุณที่จังหวัดไอจิเลือกมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเป็นการสร้างคน สร้างงาน และสร้างโอกาสและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมยินดีให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการญี่ปุ่นทุกรายและหวังว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างยาวนาน จะส่งถึงผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยและผู้ประกอบการไทยในญี่ปุ่นเช่นกันอันจะนำไปสู่เศรษฐกิจที่ดีให้กับรุ่นต่อไป