สศอ. ร่วมมือสถาบันยานยนต์ เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน กระชับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และระบบขนส่งและขับขี่อัจฉริยะ รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของอนุภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง
วันที่ 9 ธันวาคม 2567 นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายชาลี ขันศิริ ผู้อำนวยการกองเศรษฐกิจอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ นายเกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ ผู้แทนสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และสถาบันยานยนต์ เข้าพบหารือผู้ประกอบการ ณ เมืองเป่าติ้ง มณฑลเห่อเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การดำเนินความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม โครงการ “Capacity Building for Auto Parts Suppliers with Sustainable Development toward Transportation and Smart Mobility: ADAS system, new energy vehicle, rail system, aircraft parts, electronic parts, vehicles for aging people“ (การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สู่อุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ระบบการขนส่งและเคลื่อนที่อัจฉริยะ: ระบบขับขี่อัตโนมัติ (ADAS) ยานยนต์สมัยใหม่ ระบบราง ชิ้นส่วนอากาศยาน ชิ้นส่วนอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์สําหรับผู้สูงวัย) สนับสนุนโดยกองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง สาธารณรัฐประชาชนจีน
บริษัท Great Wall Motor Co., Ltd. (GWM) เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย โดยที่มาของชื่อบริษัทมาจากกำแพงเมืองจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2527 ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตรถยนต์เอนกประสงค์สมรรถนะสูง (suv) รายใหญ่ที่สุดของจีน โดยผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถกระบะ ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าและไฮบริด ภายใต้ 5 แบรนด์ ได้แก่ 1.Haval-รถ suv 2.ORA-รถยนต์ไฟฟ้า 3.Tank-รถ offroad suv 4.Wey-รถ suv ระดับหรู 5.Poer-รถกระบะ โดยมีโรงงานผลิตเต็มรูปแบบหลายแห่งในจีน บราซิล รัสเซีย และไทย ณ จังหวัดระยอง โดยคณะได้หารือและเยี่ยมชมโรงงาน ดังนี้
1. การหารือร่วมกับผู้บริหารบริษัทฯ ได้รับทราบนโยบายสำคัญ ได้แก่ นโยบายการพัฒนา 3 ใหม่ (3 New) คือ พลังงานใหม่ ระบบอัจฉริยะใหม่ และประสบการณ์การขับขี่ใหม่ รวมถึงนโยบายราคาเดียว (One Price) โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียนและออสเตรเลีย รวมถึงได้ร่วมเสนอแนะนโยบายร่วมกับภาครัฐไทยในด้านการบริหารจัดการรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน และการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการออกแบบรถยนต์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น
2. การวิจัยและพัฒนา (R&D) สามารถจำลองการทดลองประสิทธิภาพของรถยนต์ในสภาพอากาศสุดขั้วตั้งแต่ -40 องศาจนถึง 60 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตั้งศูนย์ทดสอบในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก รวมถึงการทดสอบในมิติด้านอื่น ๆ ได้แก่ การทำงานของแบตเตอร์รี่ เครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า การเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็ก การชน ระดับเสียง ความสั่นสะเทือน และความกระด้างของรถยนต์ (NVH) ตลอดจนการพัฒนารถพลังงานไฮโดรเจนทั้งแบบก๊าซและแบบเหลว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกภายในรถยนต์ เช่น เบาะนวด ปรับตามสรีระ ระบบเครื่องเสียงและสารสนเทศ รวมถึงระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น การช่วยจอด และการออกนอกช่องจราจร
3. การผลิตและทดลองขับ โดยการนั่งรถเยี่ยมชมโรงงานการผลิตชิ้นส่วนด้วยระบบหุ่นยนต์ที่มีความทันสมัยและแม่นยำ ไปจนถึงขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนจนสำเร็จเป็นรถยนต์ หลังจากนััน คณะได้นั่งรถทดลองขับในสนามทดสอบที่มีการออกแบบความโค้งและความลาดชันตามมาตรฐานด้วยความเร็วสูงที่กำหนด เพื่อทดสอบประสิทธิภาพระบบขับเคลื่อนและการยึดเกาะถนน
4. การวิจัยและผลิตแบตเตอร์รี่ ภายใต้บริษัท SVOLT ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ซึ่งได้มีการวิจัยและพัฒนาแบตเตอร์รี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด โดยมีนวัตกรรมล่าสุดคือการจัดเก็บแผ่นนิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลท์ แบบแท่งเรียงซ้อน (prismatic-stacking) ซึ่งสามารถเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานและยืดอายุการใช้งานได้ดี รวมถึงขั้วแบตเตอร์รี่ลิเธียมแบบปราศจากโคบอลท์ กระบวนการผลิตโดยวิธี spray dry ผงโลหะ และการกัดแบบ jet milling
5. การจัดแสดงสินค้า (Show Room) มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ให้ลูกค้าสามารถทดลองนั่งและสัมผัสได้ รวมถึงการจัดแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมต่าง ๆ ได้แก่ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความทันสมัยของระบบภายในรถยนต์และจักรยานยนต์ขนาดใหญ่
#mlcindustry

1. การหารือร่วมกับผู้บริหารบริษัทฯ ได้รับทราบนโยบายสำคัญ ได้แก่ นโยบายการพัฒนา 3 ใหม่ (3 New) คือ พลังงานใหม่ ระบบอัจฉริยะใหม่ และประสบการณ์การขับขี่ใหม่ รวมถึงนโยบายราคาเดียว (One Price) โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียนและออสเตรเลีย รวมถึงได้ร่วมเสนอแนะนโยบายร่วมกับภาครัฐไทยในด้านการบริหารจัดการรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน และการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการออกแบบรถยนต์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น
2. การวิจัยและพัฒนา (R&D) สามารถจำลองการทดลองประสิทธิภาพของรถยนต์ในสภาพอากาศสุดขั้วตั้งแต่ -40 องศาจนถึง 60 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตั้งศูนย์ทดสอบในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก รวมถึงการทดสอบในมิติด้านอื่น ๆ ได้แก่ การทำงานของแบตเตอร์รี่ เครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า การเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็ก การชน ระดับเสียง ความสั่นสะเทือน และความกระด้างของรถยนต์ (NVH) ตลอดจนการพัฒนารถพลังงานไฮโดรเจนทั้งแบบก๊าซและแบบเหลว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกภายในรถยนต์ เช่น เบาะนวด ปรับตามสรีระ ระบบเครื่องเสียงและสารสนเทศ รวมถึงระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น การช่วยจอด และการออกนอกช่องจราจร
3. การผลิตและทดลองขับ โดยการนั่งรถเยี่ยมชมโรงงานการผลิตชิ้นส่วนด้วยระบบหุ่นยนต์ที่มีความทันสมัยและแม่นยำ ไปจนถึงขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนจนสำเร็จเป็นรถยนต์ หลังจากนััน คณะได้นั่งรถทดลองขับในสนามทดสอบที่มีการออกแบบความโค้งและความลาดชันตามมาตรฐานด้วยความเร็วสูงที่กำหนด เพื่อทดสอบประสิทธิภาพระบบขับเคลื่อนและการยึดเกาะถนน
4. การวิจัยและผลิตแบตเตอร์รี่ ภายใต้บริษัท SVOLT ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ซึ่งได้มีการวิจัยและพัฒนาแบตเตอร์รี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด โดยมีนวัตกรรมล่าสุดคือการจัดเก็บแผ่นนิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลท์ แบบแท่งเรียงซ้อน (prismatic-stacking) ซึ่งสามารถเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานและยืดอายุการใช้งานได้ดี รวมถึงขั้วแบตเตอร์รี่ลิเธียมแบบปราศจากโคบอลท์ กระบวนการผลิตโดยวิธี spray dry ผงโลหะ และการกัดแบบ jet milling
5. การจัดแสดงสินค้า (Show Room) มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ให้ลูกค้าสามารถทดลองนั่งและสัมผัสได้ รวมถึงการจัดแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมต่าง ๆ ได้แก่ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความทันสมัยของระบบภายในรถยนต์และจักรยานยนต์ขนาดใหญ่
#mlcindustry